วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

1.1 ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
               เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(Information and Communication Technology : ICT) เมื่อนำคำทั้งสามคำมาเชื่อมกันจะมีความหมาย คือ การนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้งานร่วมกับ
เทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคม เพื่อผลิต เผยแพร่ และจัดเก็บสื่อสารสนเทศในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษร ข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว วีดิทัศน์ เสียง เป็นต้น




1.2 ระบบสารสนเทศ
                ระบบสารสนเทศ (information system) เป็นระบบที่ช่วยในการรวบรวม จัดเก็บ และจัดการกับข้อมูลต่างๆอย่างเป็นระบบ ซึ่่งประกอบไปด้วย 5 ส่วนสำคัญ
                1)ฮาร์ดแวร์ (hardware) เป็นเครื่องมือที่ใช้กับการสารสนเทศ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของระบบสารสนเทศ เนื่องจากสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และทำงานได้อย่างต่อเนื่อง เช่น จอภาพ(monitor), คีย์บอร์ด (keyboard), เมาส์(mouse) , เครื่องพิมพ์(printer),สแกนเนอร์(scanner), ไมโครโฟน(microphone), ลำโพง(speaker), หูฟัง(headphone), เราเตอร์(router), จอยสติ๊ก(joystick),
เว็บแคม(web cam), เครื่องอ่านบาร์โคด(barcode reader) เป็นต้น

                  2)ซอฟต์แวร์(software) เป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่สั่งการให้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆทำงานตามคำสั่งของผู้ใช้ ภายใต้ของโปรแกรมนั้นๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
                    
                      -ซอฟต์แวร์ระบบ (system software) เป็นชุดคำสั่ง มีหน้าที่ควบคุมการทำงานอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดภายในคอมพิวเตอร์ เช่นวินโดวส์(Windows) , ลินุกซ์(Linux) เป็นต้น



                       
                        -ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application software) เป็นชุดคำสั่งที่เขียนขึ้นเพื่อประยุกต์ใช้กับงานตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน เช่น ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน(spreadsheet), ซอฟต์แวร์ตกแต่งภาพถ่าย(photo editing), ซอฟต์แวร์เพื่อความบันเทิง(entertainment) เป็นต้น
   




                          3.ข้อมูล (data) ข้อมูลที่ดีจะต้องมีความสมบูรณ์ ถูกต้อง แม่นยำ และเชื่อถือได้ โดยจะถูกรวบรวมและป้อนเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยอุปกรณ์รับข้อมูลต่างๆ เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด สแกนเนอร์
ไมโครโฟน เป็นต้น ทั้งนี้การจัดเก็บข้อมูลจะต้องมีโครงสร้างที่เป็นระบบเพื่อให้สืบค้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ


                            4.บุคลากร (people) จะต้องมีความรู้และความเข้าใจในการใช้เทคดนโลยีสารสนเทศให้เกิดประโยชน์ โดยแบ่งออกเป็นผู้พัฒนาและผู้ใช้ระบบสารสนเทศ (user)

                              5. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน(procedure) ผู้ใช้งานจะต้องปฏิบัติตามระเบียบและวิธีการปฏิบัติตามคู่มือการปฏิบัติงาน(user manual) อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพ เช่น ขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ เมื่อข้อมูลได้รับความเสียหาย เป็นต้น
1.3 ประโยชน์ของกา่รใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
          1)ด้านการศึกษา ใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารงานการศึกษาเพื่อเก็บข้อมูลต่างๆ เช่นๆ ระบบการลงทะเบียนและระบบการจัดตารางการเรียนการสอน




           2)ด้านการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล  ข้อมูลจำนวนมากได้ถูกรวบรวมและบันทึกไว้ในรูปของสื่อบันทึกข้อมูลประเภทต่างๆ เช่น อาร์ดดิสก์(hard disk), แผ่นซีดีรอม(CD-Rom) และแผ่นดีวีดีรอม(DVD-Rom)
และสามารถนำข้อมูลกลับมาใช้ได้



           3)ด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม การสื่อสารแบบไร้สายเข้ามามีส่วนสำคัญต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว เช่น การหาข้อมูลจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อสื่อสารระหว่างกัน เป็นต้น


           4)ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  การวิจัยและการทดลองทางด้านวิทยาศาสตร์ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทั้งสิ้น เช่น การวิจัยด้านนิวเคลีย์ฟิสิกส์ งานด้านวิศวกรรมที่
มีการออกแบบโครงสร้างที่ยุ่งยากและสลับซับซ้อน เป็นต้น





           5)ด้านความบันเทิง รูปแบบการนำเสนอที่ตอบสนองความต้องการทั้งภาพและเสียงได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ ประกอบกับการเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศต่างๆที่สะดวกและรวดเร็ว จึงทำให้ได้รับความนิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย  เช่น การชมโทรทัศน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การเล่นเกมสืออนไลน์ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นต้น



 1.4แนวโน้มการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
          -เทคโนโลยีแบบไร้สายทำให้การติดต่อสื่อสารระหว่างกันมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
          -มีการใช้ระบบเสมือนจริงผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งช่วยลดความเหลื่อมล้ำ
ของผู้คนในสังคม
          -อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะมีขนาดกะทัดรัดและราคาถูก แต่มีประสิทธิ
ภาพที่สูงขึ้นและมีการใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
          -การวางแผน การคิดวิเคราะห์ และการตัดสินใจของมนุษย์จะถูกแทนที่โดยคอมพิวเตอร์ซึ่งจะ
เป็นเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจ
          -ด้วยการเข้าถึงข้อมูลที่ง่าย สะดวก และรวดเร้ว ทำให้มีช่องทางการดำเนินธุรกิจและกิจกรรม
ต่างๆเพิ่มมากขึ้นด้วย
          -หน่วยงานหรือองค์กรจะมีขนาดเล็กลง แต่จะปรับเปลี่ยนเป็นลักษณะของการเชื่อมโยงเป็น
เครือข่ายระหว่างหน่วยงานย่อยๆเพิ่มมากขึ้น




1.5ผลกระทบจากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
          -พฤติกรรมเลียนแบบจากเกมที่ใช้ความรุนแรง อาจก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมได้



 -การใช้ชีวิตของสังคมเมืองเปลี่ยนไป ทำให้การพบปะของผู้คนน้อยลง ส่งผลให้สัมพันธภาพ
ทางสังคมน้อยลงตามไปด้วย


          -การเข้าถึงข้อมูลบนระบบเครือข่ายที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ทำให้เกิดช่องทางการโจรกรรม
เพิ่มมากขึ้น


          -ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทำให้การผลิตของผิดกฎหมายและละเมิดลิขสิทธิ์เพิ่มมากขึ้น
เช่น ซีดีเพลงและดีวีดีภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นต้น


          -การส่งต่อข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางต่างๆบนระบบเครือข่าย เช่น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์(e-mail) เฟซบุ๊ก (facebook) ถ้าผู้ส่งไม่ระมัดระวังอาจเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้



          -เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารพัฒนาเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือขยะอิเล็กทรอนิกส์
ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่มีมาตรการการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ก็จะเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตได้



1.6อาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

          -นักเขียนโปรแกรมหรือโปรแกรมเมอร์(programmer) ทำหน้าที่เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์

          -นักวิเคราะห์ระบบ (system analyst) ทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ และพัฒนาระบบสารสนเทศ

          -ผู้ดูแลและบริหารฐานข้อมูล (database administrator) ทำหน้าที่บริหารจัดการฐานข้อมูล

          -ผู้ดูแลและบริหารระบบเครือข่าย(network administrator) ทำหน้าที่บริหารจัดการระบบเครือข่าย

          -ผู้พัฒนาและบริหารระบบเว็บไซต์ (webmaster)

          -เจ้าหน้าที่เทคนิค (technician) ทำหน้าที่ดูแลรักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์






ตอบคำถาม

Microsoft Office outlook 2007

















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น